"วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร" เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2412 โดยมีพระประสงค์ที่จะสร้างให้เป็นวัดประจำรัชกาล โดยมีพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรการพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นณรงคหริรักษ์ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพศาสตรศุภกิจ และเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (มรว. ปุ้ม มาลากุล) เป็นผู้อำนวยการสร้าง       มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบอย่างตะวันตก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม" มีความหมายว่า วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง และมีมหาสีมาอันเป็นเสาศิลาจำหลักยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร 8 เสา ตั้งเป็นสีมาที่กำแพง 8 ทิศ      "ราชบพิธ" หมายถึง พระอารามที่พระเจ้าแผ่นดินสร้าง และ "สถิตมหาสีมาราม" หมายถึง พระอารามซึ่งมีมหาเสมา หรือเสมาใหญ่   ภายในวัดราชบพิธ มีสิ่งน่าชมมากมาย อาทิ      @ อุโบสถ มีลักษณะที่โดดเด่นต่างจากพระอุโบสวัดอื่น นั่นคือ "ด้านนอกเป็นไทย ด้านในเป็นฝรั่ง" ด้วยการตกแต่งเพดานภายในด้วยศิลปะแบบกอทิก โดยทำเป็นโค้งแหลมมาบรรจบกันหลายๆ โค้ง ผสมผสานด้วยลายเครือเถาสีทองแบบไทย      พระประะานในพระอุดบสถคือ "พระพุทธอังคีรส" ที่ทำด้วยกะไหล่ทองคำทั้งองค์ สิ้นเนื้อทองแปดหนัก 180 บาท ซึ่งเป็นทองคำที่รัชกาลที่ 5 ทรงใช้แต่งองค์เมื่อทรงพระเยาว์ เหนือพระพุทธอังคีรสมีพระเสวตแตรกั้น เดิมเป็นเศวตฉัตรกั้นพระดกศพระบรมศพของรัชกาลที่ 5 @ พระเจดีย์ เจดีย์ไทยย่อเหลี่ยมฐานคูหาทรงกลมบนฐานทักษิณ ประดับกระเบื้องเคลือบลายเบญจรงค์ทั้งองค์ เป็นฝีมือการออกแบบของพระอาจารย์แดง ช่างเขียนที่มีชื่อเสียงมากในยุคนั้น แล้วส่งไปทำกระเบื้องเคลือบที่เมืองจีน      ความพิเศษของกระเบื้ององค์พระเจดีย์ที่แตกต่างจากกระเบื้องพระอุโบสถ พระวิหาร พระวิหารมุข พระวิหารคต และศาลาราย อยู่บนพื้นไพทีตรงที่เป็นลายอัดนูน      องค์พระเจดีย์สูง 43 เมตร ฐานวัดโดยรอบ 56.20 เมตร เหนือฐานพระเจดียฺมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ และยังประดิษฐานพระรูปหล้อ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ ปลายยอดปลีประดับลูกแก้วกลม ครอบผอบ บรรจุพระบรมสารีริกะาตุ ภายในตรงกลสงพระเจดีย์ มีชุกชีประดิษฐานพระพุทธรูปศิลา ปางนาคปรกสมัยลพบุรี 4 องค์ หันหน้าไปทางทิศต่างๆ  @ พระระเบียงวิหารคต เป็นส่วนที่เชื่อมกัน มี 4 ด้าน ล้อมองค์พระเจดีย์ใหญ่ ผนังประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ ทางเดินปูด้วยหินอ่อน มีเสาหินกลมรับเชิงชาย ด้านในเป็นพื้นสองชั้นปูด้วยหินอ่อน      @ สุสานหลวง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวีย์ขึ้น เพื่ออุทิศแก่พระบรมราชเทวี เจ้าจอมมารดา ตลอดจนพระราชโอรสธิดา และมีบางส่วนที่พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในสมัยหลัง อนุสาวรีย์ที่สุสานหลวงนี้ทำเป็นรูปเจดีย์ ปรางค์ และอาคารศิลปะยุโรป เช่น เจ้าจอมเอี่ยม, สุขุมาลนฤมิตร, อรอนุสสรณ์, ฉัตรชยานุสสรณ์, เจ้าจอมอาบ ในรัชกาลที่ 5 ฯลฯ@ หอกลอง ทำเป็นยอดทรงพระเกี้ยว ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ และกรุด้วยกระจกสีที่ซุ้มประตู @ หอกลอง ทำเป็นยอดทรงพระเกี้ยว ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ และกรุด้วยกระจกสีที่ซุ้มประตู

 

      "วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร" เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2412 โดยมีพระประสงค์ที่จะสร้างให้เป็นวัดประจำรัชกาล โดยมีพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรการพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นณรงคหริรักษ์ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพศาสตรศุภกิจ และเจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี (มรว. ปุ้ม มาลากุล) เป็นผู้อำนวยการสร้าง       มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและยุโรป คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบอย่างตะวันตก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า "วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม" มีความหมายว่า วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้าง และมีมหาสีมาอันเป็นเสาศิลาจำหลักยอดเป็นรูปเสมาธรรมจักร 8 เสา ตั้งเป็นสีมาที่กำแพง 8 ทิศ

 

     "ราชบพิธ" หมายถึง พระอารามที่พระเจ้าแผ่นดินสร้าง และ "สถิตมหาสีมาราม" หมายถึง พระอารามซึ่งมีมหาเสมา หรือเสมาใหญ่   ภายในวัดราชบพิธ มีสิ่งน่าชมมากมาย อาทิ      @ อุโบสถ มีลักษณะที่โดดเด่นต่างจากพระอุโบสวัดอื่น นั่นคือ "ด้านนอกเป็นไทย ด้านในเป็นฝรั่ง" ด้วยการตกแต่งเพดานภายในด้วยศิลปะแบบกอทิก โดยทำเป็นโค้งแหลมมาบรรจบกันหลายๆ โค้ง ผสมผสานด้วยลายเครือเถาสีทองแบบไทย      พระประะานในพระอุดบสถคือ "พระพุทธอังคีรส" ที่ทำด้วยกะไหล่ทองคำทั้งองค์ สิ้นเนื้อทองแปดหนัก 180 บาท ซึ่งเป็นทองคำที่รัชกาลที่ 5 ทรงใช้แต่งองค์เมื่อทรงพระเยาว์ เหนือพระพุทธอังคีรสมีพระเสวตแตรกั้น เดิมเป็นเศวตฉัตรกั้นพระดกศพระบรมศพของรัชกาลที่ 5 @ พระเจดีย์ เจดีย์ไทยย่อเหลี่ยมฐานคูหาทรงกลมบนฐานทักษิณ ประดับกระเบื้องเคลือบลายเบญจรงค์ทั้งองค์ เป็นฝีมือการออกแบบของพระอาจารย์แดง ช่างเขียนที่มีชื่อเสียงมากในยุคนั้น แล้วส่งไปทำกระเบื้องเคลือบที่เมืองจีน      ความพิเศษของกระเบื้ององค์พระเจดีย์ที่แตกต่างจากกระเบื้องพระอุโบสถ พระวิหาร พระวิหารมุข พระวิหารคต และศาลาราย อยู่บนพื้นไพทีตรงที่เป็นลายอัดนูน      องค์พระเจดีย์สูง 43 เมตร ฐานวัดโดยรอบ 56.20 เมตร เหนือฐานพระเจดียฺมีซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ และยังประดิษฐานพระรูปหล้อ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ ปลายยอดปลีประดับลูกแก้วกลม ครอบผอบ บรรจุพระบรมสารีริกะาตุ ภายในตรงกลสงพระเจดีย์ มีชุกชีประดิษฐานพระพุทธรูปศิลา ปางนาคปรกสมัยลพบุรี 4 องค์ หันหน้าไปทางทิศต่างๆ  @ พระระเบียงวิหารคต เป็นส่วนที่เชื่อมกัน มี 4 ด้าน ล้อมองค์พระเจดีย์ใหญ่ ผนังประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ ทางเดินปูด้วยหินอ่อน มีเสาหินกลมรับเชิงชาย ด้านในเป็นพื้นสองชั้นปูด้วยหินอ่อน

 

     @ สุสานหลวง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวีย์ขึ้น เพื่ออุทิศแก่พระบรมราชเทวี เจ้าจอมมารดา ตลอดจนพระราชโอรสธิดา และมีบางส่วนที่พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงสร้างขึ้นในสมัยหลัง อนุสาวรีย์ที่สุสานหลวงนี้ทำเป็นรูปเจดีย์ ปรางค์ และอาคารศิลปะยุโรป เช่น เจ้าจอมเอี่ยม, สุขุมาลนฤมิตร, อรอนุสสรณ์, ฉัตรชยานุสสรณ์, เจ้าจอมอาบ ในรัชกาลที่ 5 ฯลฯ@ หอกลอง ทำเป็นยอดทรงพระเกี้ยว ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ และกรุด้วยกระจกสีที่ซุ้มประตู

 

@ หอกลอง ทำเป็นยอดทรงพระเกี้ยว ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ และกรุด้วยกระจกสีที่ซุ้มประตู

 

  Wat Ratchabophit วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม The temple is located on Fuang Nakhon Road, near Wat Pho. Built by King Rama V in 1869, it was in keeping with tradition that each monarch constructed a temple to mark his reign. The temple is a mixture of local and western styles, showing an awakening interest in new ideas and a desire to experiment with them. The exterior of the chapel is in Thai style but the interior is decorated in European style.