Attraction บ้านน้ำเชี่ยว Nam Chiao Village : ตราด
บ้านน้ำเชี่ยว ตั้งอยู่ใน ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ จ.ตราด เป็นหมู่บ้านในเส้นทางผ่านไปขึ้นเรือสู่เกาะช้าง หมู่บ้านแห่งนี้มีคลองน้ำเชี่ยวไหลผ่านกลางชุมชนสู่อ่าวไทย
บ้านน้ำเชี่ยว Nam Chiao Village
ประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวของชุมชนบ้านน้ำเชี่ยวเล่าว่า สมัยก่อนคลองที่ไหลผ่านหมู่บ้านน้ำเชี่ยวมาก ที่นี่จึงได้ชื่อว่าบ้านน้ำเชี่ยว แต่ปัจจุบันสายน้ำจะไหลเชี่ยวเฉพาะช่วงฤดูน้ำหลากเท่านั้น เพราะลำคลองตื้นเขินขึ้น แต่ว่าทรัพยากรชายฝั่งของที่นี่ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่
ด้านนายกเทศมนตรีตำบลน้ำเชี่ยว เปิดเผยว่า สังคมความเป็นอยู่ของชุมชนแห่งนี้ น่าศึกษาและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง จุดขายคือ ชุมชน 2 ศาสนา (พุทธและมุสลิม) ซึ่งมีปริมาณใกล้เคียงกัน คือ 50 % ชาวหมู่บ้านนี้ประมาณ 50% นับถือศาสนาพุทธ และอีกประมาณ 50% นับถือศาสนาอิสลาม โดยชาวมุสลิมบ้านน้ำเชี่ยวนั้น อพยพเข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธหรือไทยมุสลิม ชาวบ้านที่นี่ต่างก็อยู่อาศัยอย่างพึ่งพา เกื้อหนุนจุนเจือ และถ้อยทีถ้อยอาศัย ซึ่งใครเห็นแล้วต่างก็อดชื่นชม ในความรักใคร่กลมเกลียวของชาวชุมชนนี้ไม่ได้
นอกจากจะเป็นชุมชนเก่าแก่และชุมชนสมานฉันท์ตัวอย่างแล้ว บ้านน้ำเชี่ยวยังมีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยว โดยมีรางวัลชนะเลิศหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (OVC) ปี 2549 และรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรือ ไทยแลนด์ทัวริสต์อะวอร์ด จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ประเภทชุมชนดีเด่นด้านการท่องเที่ยว ใน ปี 2550 เป็นตัวการันตีในคุณภาพ
ด้วยความที่เป็นชุมชนเก่าแก่ และเป็นชุมชนมีเอกลักษณ์ แถมยังเป็นชุมชนใกล้ปากอ่าว ทำให้บ้านน้ำเชี่ยวมีสิ่งที่น่าสนใจ ทางการท่องเที่ยวหลายจุดด้วยกัน ซึ่งจุดเด่นๆ ก็มีดังนี้
มัสยิดอัลกุบรอ : เป็นมัสยิดเก่าแก่แห่งแรกของภาคตะวันออกมีอายุกว่า 200 ปี สร้างโดยชาวมุสลิมที่อพยพเข้ามาในสมัยรัชกาลที่ 3 เดิมทีนั้น มัสยิดอัลกุบรอสร้างขึ้นแบบง่ายๆ ใช้ไม้โกงกางปักเป็นเขต 4 ต้น หลังคามุงด้วยใบปรงสานเป็นตับเหมือนตับจาก จากนั้นก็มีการปรับปรุงเรื่อยมา กลายเป็นมัสยิดรูปทรงสมส่วนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ริมคลองน้ำเชี่ยว ให้ผู้ที่สัญจรผ่านไป-มา มองเห็นแต่ไกล
ศึกษาวิถีชีวิต : เนื่องจากเป็นหมู่บ้านริมทะเลที่มีคลองน้ำเชี่ยวไหลผ่าน หมู่บ้านน้ำเชี่ยวจึงน่าสนใจไปด้วยวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำ ที่มีบ้านเรือน มัสยิด สร้างเลาะเลียบไปตามริมคลอง มีเรือประมงพื้นบ้านจอดเรียงรายอยู่ในลำคลองช่วงใกล้ออกปาวอ่าว สำหรับชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ทำสวนยางพารา และทำสวนผลไม้ ซึ่งวิถีการทำประมงพื้นบ้านของที่นี่ นับเป็นหนึ่งในจุดเด่นทางการท่องเที่ยวที่สำคัญ ในช่วงน้ำลงบริเวณปากอ่าวจะได้เห็นชาวบ้านออกไปเก็บหอยแครง หอยเป็ด จับกุ้งปูปลา ในขณะที่วิถีชาวบ้านนั้นก็อยู่กันอย่างเรียบง่าย สันติสุข เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม น้ำมิตรไมตรี
ทั้งนี้ หากผู้ใดอยากซึมซับกับบรรยากาศพื้นบ้านแบบใกล้ชิดเต็มที่ ก็สามารถพักค้างแบบโฮมสเตย์กันได้ ส่วนกิจกรรมท่องเที่ยวที่นิยมทำกันอยู่ ณ วันนี้ที่บ้านน้ำเชี่ยวก็คือ การล่องเรือชมบ้านเรือน ป่าชายเลน วิถีชีวิตริมคลอง ริมปากอ่าว ชมการทำประมงพื้นบ้านหรือตกปลาน้ำตื้น และไปขึ้นฝั่งเดินชมป่าชายเลน เดินสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ชมมัสยิด ชมวัด เป็นต้น ส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยวหมู่บ้านเรา มักจะมาแวะก่อนจะไปเที่ยวต่อที่เกาะช้าง หรือไม่ก็แวะตอนขากลับ แต่ในอนาคตเรามีโครงการจะจัดเป็นโปรแกรมทัวร์ นอนโฮมสเตย์
สิ่งน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของหมู่บ้านน้ำเชี่ยวที่โด่งดังไปไกล ก็คือ งอบน้ำเชี่ยว ซึ่งเป็นงอบ (หมวก) ใบจาก งานหัตถกรรมพื้นบ้าน มีเอกลักษณ์ เป็นงานภูมิปัญญาพื้นบ้าน ที่บรรพบุรุษชาวตราดสืบทอดกันมาช้านาน ถวิล มังกรกูล หรือคุณยายถวิล วัย 82 ปี ที่ชาวบ้านแถบนี้ยกให้เป็นต้นตำรับ และปรมาจารย์ในการทำงอบเล่าว่า ทำงอบขายมากว่า 70 ปี แล้ว ปัจจุบันแม้จะส่งต่อฝีมือให้ลูกหลานทำ แต่คุณยายก็ยังเย็บงอบขายทุกวัน เพราะสายตายังใช้การได้ดีอยู่ โดยวันหนึ่ง ๆ คุณยายสามารถเย็บงอบแบบสบาย ๆ ได้จำนวน 4 ใบ
สำหรับงอบน้ำเชี่ยวนั้นมีลักษณะพิเศษตรงที่ ฝีมือประณีต ละเอียด ทำออกมาได้สวยงามสมส่วน โดยนอกจากจะมีรูปทรงแบบดั้งเดิมอย่างงอบทั่วๆ ไปแล้ว งอบน้ำเชี่ยวยังมีรูปทรงประยุกต์ เพื่อให้ผู้สวมใส่ได้เลือกใช้เหมาะกับงาน หรือเพื่อความสวยงาม มี 5 ทรง ด้วยกัน คือ
- ทรงกระทะคว่ำ เป็นทรงที่ชาวประมงนิยมใส่ออกหาปลา เป็นทรงอเนกประสงค์ที่ใช้กันแดดกันฝนทั่วๆ ไป
- ทรงกระดองเต่า เป็นทรงปีกเว้าคล้ายกระดองเต่าทางด้านหน้า เหมาะสำหรับเกษตรกร ชาวนา เนื่องจากส่วนเว้าของหมวกทางด้านหน้า ทำให้ผู้สวมใส่มองเห็นได้สะดวก
- ทรงยอดแหลมหรือทรงหัวแหลม เป็นทรงกรวยหัวแหลมปากกว้าง เหมาะสำหรับชาวสวนชาวไร่ เพราะรูปทรงแหลมรี สามารถกันและระบายความร้อนได้ดี ทั้งยังมีด้านข้างที่กว้างพอประมาณ ทำให้สะดวกในการเคลื่อนไหว
- ทรงสมเด็จ เป็นหมวกรูปทรงสวยงาม ออกแบบโดยกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านน้ำเชี่ยว เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในจังหวัดตราด เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2524 ซึ่งสมเด็จย่าได้พระราชทานนามงอบทรงนี้ว่า ทรงสมเด็จ
- ทรงกระโหลก เป็นทรงกลม คล้ายหมวกภาคสนามของทหาร มีขนาดพอดีกับศีรษะ ใส่แล้วกระชับไม่เกะกะ
นอกจากนี้ บ้านน้ำเชี่ยวยังมีผลิตภัณฑ์ชุมชนน่าสนใจอย่าง เรือจำลอง ขนมตังเมกรอบ สุรากลั่นชุมชน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ถือเป็นมนต์เสน่ห์แห่งบ้านน้ำเชี่ยว ที่รอให้ผู้สนใจได้ไปสัมผัสเที่ยวชมกัน
Ban Nam Chiao has most of its area adjacent to the sea. There are many fertile mangrove forests and a large canal running through it. This canal is originated from Khao Wang Pla which is located between Laem Ngop and Mueang Trat districts. Originally, the population of Nam Chiao Subdistrict was Thai Buddhist. Later, there were Chinese merchants sailing on a junk boat to sell their products at Ban Nam Chiao Pier, and settled here; that is why some of the Nam Chiao people are Thai-Chinese descendants. Then, during the reign of King Rama III, there were Muslims who called themselves "Khaek Cham or Champa" who fled the war from Cambodia, and came to settle at the edge of the Chiao Canal and more of them came afterwards. Buddhists and Muslims can marry across religions. As of which, these two religions have been living together in Tambon Nam Chiao peacefully with good relations all along. The origin of the community name “Nam Chiew” comes from most of its area adjacent to the sea. There are many fertile mangrove forests and a large canal running through it. This canal is originated from Khao Wang Pla which is located between Laem Ngop and Mueang Trat districts; during rainy season, the water in the canal will flow rapidly, hence the villagers called it “Khlong Nam Chiao”. It flows through the middle of Nam Chiao village into the southern Gulf of Thailand at Ban Pak Khlong, Nong Son Subdistrict, Mueang Trat District, where the villagers use the area as their traditional fishing ground and used it as a route out to the sea for fishing. Until now, most of the people of Nam Chiao sub-district are engaged in fishing, rubber plantation, fruit orchards and trading.
The culture of 2 religions coexisting and has a way of life that relies on nature in the canals, chute, mangrove forests and the Gulf of Thailand. Therefore, Ban Nam Chiao area started to do homestay tourism since 2004 through a downhill experience; and it has been developed until the establishment of Ban Nam Chiao Ecotourism Group that received many quality guarantee awards.
Latitude : 12.190643656557862, Longitude : 102.46145512620267
View Larger Map
View On Google Map
Edit Data
Images
-
บ้านน้ำเชี่ยว Nam Chiao Village
-
บ้านน้ำเชี่ยว Nam Chiao Village
-
บ้านน้ำเชี่ยว Nam Chiao Village
-
บ้านน้ำเชี่ยว Nam Chiao Village
-
บ้านน้ำเชี่ยว Nam Chiao Village
-
บ้านน้ำเชี่ยว Nam Chiao Village