Attraction อุทยานแห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park : น่าน
ข้อมูลทั่วไป มหัสจรรย์ชมพูภูคาและป่าปาล์มยักษ์ ดอยภูคาเป็นพื้นที่แห่งเดียวในประเทศไทยที่พบต้นชมพูภูคา (Bretschneidera sinensis Hemsl) ซึ่งเป็นพืชหายากและใกล้สูญพันธุ์ ต้นไม้ชนิดนี้พบครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2532 และไม่พบในพื้นที่ใดอีกเลย จึงได้รับการตั้งชื่อต้นไม้ตามสีของดอกและถิ่นที่พบว่า “ชมพูภูคา” อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จึงเป็นพื้นที่อนุรักษ์สำคัญของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง อำเภอทุ่งช้าง อำเภอแม่จริม อำเภอท่าวังผา อำเภอสันติสุข อำเภอบ่อเกลือ และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ เป็นป่าต้นน้ำลำธาร ชั้น 1 A และมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกภูฟ้า น้ำตกแม่จริม น้ำตกผาฆ้อง ธารน้ำลอด พระลานหิน และป่าปาล์มดึกดำบรรพ์ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 1,065,000 ไร่ หรือ 1,704 ตารางกิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park
![]()
ลักษณะภูมิประเทศ สภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน มียอดดอยภูคาเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,980 เมตร อันเป็นสัญลักษณ์ภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดน่าน โดยทั่วไปเป็นภูเขาหินทราย เป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธารชั้น 1 อันเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำลำธารหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน แม่น้ำว้า เป็นต้น
![]()
ลักษณะภูมิอากาศ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีสภาพภูมิอากาศ แบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล คือ ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม - ตุลาคม มีฝนตกชุก ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน- กุมภาพันธ์ ในเดือนธันวาคม - มกราคม จะมีอากาศหนาวจัด เฉลี่ยประมาณ 10 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซลเซียส กลางคืนโดยเฉลี่ย 25 องศาเชลเชียส
![]()
พืชพรรณและสัตว์ป่า สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง และยังมีป่าสนเขากลุ่มเล็กๆ อยู่บริเวณทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ใกล้กับดอยภูหวด นอกจากนี้ยังมีทุ่งหญ้าปกคลุมบนภูเขาเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเป็นผลจากการแผ้วถางป่าของชาวบ้านเมื่อก่อนที่จะมีการประกาศให้ดอยภูคาเป็นพื้นที่อนุรักษ์ มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ก่อ ยาง ตะเคียน จำปีป่า ประดู่ แดง สัก เต็ง รัง เหียง พลวง พะยอม รวมทั้งปาล์มขนาดใหญ่ หวาย ผักกูด ไผ่ และหญ้าเพ็ก เป็นต้น พันธุ์ไม้หายาก เช่น ชมพูภูคา ก่วมภูคา จำปีป่า ไข่นกคุ้ม ค้อเชียงดาว โลดทะนงเหลือง ขาวละมุน เทียนดอย เสี้ยวเครือ มะลิหลวง สาสี่หนุ่ม เหลืองละมุน ประทัดน้อยภูคา กระโถนพระฤาษี กุหลาบแดง กุหลาบขาวเชียงดาว พันธุ์ไม้เฉพาะถิ่น ได้แก่ เต่าร้างยักษ์ หมักอินทร์ คัดเค้าภูคา ประดับหินดาว หญ้าแพรกหิน นมตำเลีย และรางจืดต้นภูคา
![]()
สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่มีอย่างชุกชุม ได้แก่ ช้างป่า วัวแดง กระทิง กวางป่า เก้ง หมูป่า เลียงผา ลิง ชะนี ค่าง หมี อีเห็น กระจง นาก ไก่ป่า ไก่ฟ้า เหยี่ยวรุ้ง นกมูม นกพญาไฟใหญ่ ฯลฯ มีนกหายาก 2 ชนิด ซึ่งพบที่ดอยภูคา ได้แก่ นกมุ่นรกคอแดง (Rufous-throated Fulvetta) และนกพงใหญ่พันธุ์อินเดีย (Clamorous Reed-Warbler)
![]()
ชมต้นชมพูภูคา จุดที่สามารถชมต้นชมพูภูคาได้สะดวกที่สุดอยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 (บัว-บ่อเกลือ) ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูคาประมาณ 4 กิโลเมตร โดยทางอุทยานแห่งชาติจัดทำเป็นระเบียงไม้ยื่นออกไปให้ยืนชมต้นชมพูภูคาที่ยืนต้นสูงขึ้นมาจากหุบเขา ต้นชมพูภูคาต้นนี้เป็นต้นเดียวกับที่ ดร.ธวัชชัย สันติสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤษศาสตร์ พบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2532 ฤดูกาลที่เหมาะสมแก่การมาชมต้นชมพูภูคา คือในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งต้นชมพูภูคาจะออกดอกสีชมพูบานสะพรั่ง
![]()
น้ำตกภูฟ้า เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงประมาณ 140 เมตร สายน้ำไหลลดหลั่นลงมาอย่างงดงามเป็นจำนวนถึง 12 ชั้น น้ำตกตั้งอยู่ท่ามกลางป่าดิบเขาอันอุดมสมบูรณ์ มีน้ำตลอดปี แม้ว่าจะเป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดในพื้นที่ แต่ต้องใช้เวลาเดินทางไป-กลับ 3 วัน ผู้สนใจการเดินป่าตามเส้นทางสายนี้ ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ กิจกรรม -เที่ยวน้ำตก
![]()
น้ำตกต้นตอง เป็นน้ำตกหินปูนที่มีอยู่ด้วยกัน 3 ชั้น มีความสูงรวมกันประมาณ 60 เมตร สภาพรอบน้ำตกรุ่นรื่นเหมาะแก่การเล่นน้ำและเที่ยวพักผ่อน น้ำตกตั้งอยู่ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีทางเดินจากถนนเข้าไปถึงตัวน้ำตกระยะทางเพียง 400 เมตร
![]()
น้ำตกศิลาเพชร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ อยู่ทางตอนกลางของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา น้ำตกมี 3 ชั้น มีน้ำไหลตลอดปี การเดินทางใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 ถึงหมู่บ้านป่าตอง ตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว แล้วแยกจากทางหลวงเข้าสู่น้ำตก ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร สภาพทางสะดวก
![]()
ถ้ำผาเก้า เป็นถ้ำขนาดใหญ่ภายในถ้ำกว้างขวางมีหินงอกหินย้อยมากมาย สัตว์ป่าที่พบมีค้างคาวและเม่นจำนวนมาก การเดินทางใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1081 ถึง กม. ที่ 57 จากนั้นเดินเท้าเข้าไปอีก 1.5 กิโลเมตร ถึง ปากถ้ำ
![]()
ถ้ำผาฆ้อง เป็นถ้ำขนาดกลางซึ่งประกอบด้วยคูหาถ้ำจำนวนมากที่ต่อเนื่องถึงกัน แต่ละคูหามีหินงอกหินย้อยรูปลักษณ์ต่างๆ สวยงาม ในช่วงฤดูฝนถ้ำผาฆ้องจะมีสายน้ำไหลผ่าน จึงไม่สามารถเข้าไปเที่ยวได้ ผู้สนใจชมถ้ำผาฆ้องต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่ช่วยนำทางและเตรียมไฟฉายไปด้วย จุดเริ่มต้นเดินเท้าไปถ้ำผาฆ้องอยู่ที่บ้านป่าไร่ ซึ่งอยู่ในอำเภอปัว ริมทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 บริเวณ กม. ที่ 18 ระยะทางเดินประมาณ 3.5 กิโลเมตร
![]()
ถ้ำผาแดง เป็นถ้ำที่สวยงามและยาวมากที่สุดในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย รวมทั้งน้ำตกและลำธารขนาดใหญ่
![]()
ธารน้ำลอด ชาวบ้านเรียกว่า “น้ำออกรู” เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มหัศจรรย์มาก ภายในถ้ำใต้ภูเขาจะมีลำธารน้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ภูเขา แล้วไหลออกปากถ้ำไป มีเสียงดังสนั่นเสมือนเสียงน้ำตก และผนังถ้ำจะมีรูเข้าไปมีลักษณะเป็นห้วยลำธารมีน้ำไหลออกมา ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
![]()
ดอยภูแว เป็นดอยสูงชัน พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าและมีลานหินกระจายอยู่หลายแห่ง เช่น ผาแอ่น ผาผึ้ง เมื่อถึงช่วงฤดูหนาวเป็นที่นิยมเดินขึ้นยอดดอยภูแวเพื่อชมบรรยากาศยามดวงอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ปกคลุมไปทั่วหุบเขา ใช้เวลาเดินทางไป-กลับ 3 วัน 2 คืน จุดเริ่มต้นการเดินเท้าอยู่ที่บ้านด่าน อำเภอบ่อเกลือ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 50 กิโลเมตร ผู้สนใจต้องติดต่อขอเจ้าหน้าที่ช่วยนำทางที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
![]()
ป่าปาล์มดึกดำบรรพ์ เป็นป่าปาล์มขนาดใหญ่ของประเทศไทย มีพื้นที่เฉพาะรอบๆ ดอยภูแว ไม่ต่ำกว่า 3,000 ไร่ ลักษณะเป็นป่าปาล์มธรรมชาติดงดิบ แทบจะไม่มีพันธุ์ไม้อื่นใดปะปน ชาวเขาเผ่าแม้วเรียก ปาล์มชนิดนี้ว่า “ต้นจิ๊ก” ไส้ในของลำต้นที่อ่อนใช้ประกอบอาหารรับประทานแทนข้าวได้
![]()
สุสานหอย 218 ล้านปี เป็นสุสานหอยแครงซึ่งเป็นหอยทะเล อายุเก่าแก่ถึง 218 ล้านปี
![]()
เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติและบริเวณที่กางเต็นท์ เส้นทางจะขึ้นเขา ผ่านป่าที่กำลังฟื้นสภาพจากการถูกบุกรุกทำลายในอดีต จากนั้นจึงเข้าสู่ป่าดิบเขาที่มีไม้ใหญ่ร่มครึ้มและสภาพป่าชุ่มชื้น เมื่อผ่านดงกล้วยป่าแล้วจะพบทางเดินลงไปชมจุดเด่นของเส้นทางนี้คือ ต้นชมพูภูคา ไม่ไกลจากต้นชมพูภูคาจะพบต้นเต่าร้างยักษ์ (Caryota sp.) ซึ่งเป็นปาล์มหายากและใกล้สูญพันธุ์ ลำต้นมีขนาดสูงใหญ่กว่าต้นเต่าร้างทั่วไป เมื่อโตเต็มที่จะสูง 8-12 เมตร ต้นเต่าร้างยักษ์มักขึ้นตามไหล่เขา ที่ลาดชัน และตามหน้าผาในป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 1,500-1,700 เมตรจากระดับน้ำทะเล ดอยภูคาเป็นพื้นที่เพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่พบต้นเต่าร้างยักษ์สำหรับในพื้นที่อื่น คาดว่าจะมีต้นเต่าร้างยักษ์อยู่ในป่าดิบเขาบนทิวเขาหลวงพระบางในฝั่งประเทศลาว
![]()
สถานที่ติดต่อ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ต.ภูคา อ. ปัว จ. น่าน 55120 โทรศัพท์ 0 5470 1000, 0 1960 0477
![]()
การเดินทาง รถยนต์ จากอำเภอเมืองน่าน–อำเภอปัว ใช้เส้นทางตามทางหลวงหมายเลข 1080 เป็นถนนลาดยาง ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร จากอำเภอปัว - ที่ทำการอุทายานแห่งชาติดอยภูคา ตามทางหลวงหมายเลข 1256 (เส้นทางสายอำเภอปัว - อำเภอบ่อเกลือ) สภาพเส้นทาง เป็นถนนลาดยางระยะทาง ประมาณ 25 กิโลเมตร ระยะทางโดยส่วนใหญ่จะโค้งลาดชันเพราะสภาพพื้นที่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสูง
![]()
รถโดยสารประจำทางโดยสารรถประจำทางสายปัว-บ่อเกลือ
![]()
ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
![]()
สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีสถานที่กางเต็นท์และเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการอยู่ใกล้กับธรรมชาติ
![]()
บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว
![]()
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.
![]()
General Information Designated on the 17th June 1999, Doi Phuka National park is situated in the mountains of Northern Thailand. The park is named after the highest peak in the park boundaries, Doi Phuka, which sits at 1,980 meters (6,600 feet) above sea level. Being Northern Thailand’s largest national park, at 1,704 km2 size.
![]()
The mountain range within the park, Luang Prabang, ruggedly. Due to being created under the ocean, there is an abundance of limestone. Consequently, within the park are limestone caves, karsts, waterfalls, and fossil.
![]()
Climate Three main seasons are characteristic in the park. There is they rainy season, May to October, with the peak rainfall in August and September. The cold season (November-February) is the most popular time to visit the park.
![]()
Contact Address Doi Phu Kha National Park Phu Kha Sub-district, Amphur Pua Nan Thailand 55120Tel. 0 5470 1000, 0 1960 0477
![]()
How to go? By Car To get to the Doi Phuka National Park, take route Nan-Pau for 60 kilometers. There is park sign mark that will take you up to the Headquarters of the park with 25 kilometers.
Latitude : 19.19904970736664, Longitude : 101.08035231933228
View Larger Map

View On Google Map
Edit Data
Images
-
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park
-
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park
-
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park
-
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park
-
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park
-
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา Doi Phu Kha National Park