Attraction อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน Chae Son National Park : ลำปาง
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอวังเหนือ และอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีสัตว์ป่านานาชนิด และมีทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกแอ่งน้ำอุ่น บ่อน้ำพุร้อน ซึ่งสามารถเป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงว่าใต้พื้นโลกเรายังมีความร้อนระอุอยู่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง มีเนื้อที่ประมาณ 480,000 ไร่ หรือ 768 ตารางกิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน Chae Son National Park
![]()
ลักษณะภูมิประเทศ สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน เป็นส่วนหนึ่งของสันเขาผีปันน้ำตะวันตก ทอดตัวตามแนวทิศเหนือสู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เรื่อยไปทางทิศใต้จนถึงอำเภอแม่พริก ซึ่งเป็นเขตแบ่งระหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 300-2,031 เมตร มียอดเขาสูงที่สุดคือ ดอยลังกา นอกจากนี้ยังประกอบด้วย ดอยสันผักกิ้ง ดอยชายแดน ดอยแม่กา ดอยตะไคร้ ดอยต๋ง ดอยวังหลวง ดอยห้วยหลอด ผาหลักไก่ ม่อนทางเก้า ดอยแม่บึก ม่อนจวง ดอยแม่มอน และดอยแปเมือง พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าต้นน้ำลำธารชั้น 1-A ของลุ่มน้ำวัง ประกอบด้วยลำน้ำขนาดต่างๆ จำนวนมากที่สำคัญได้แก่ น้ำแม่หมี น้ำแม่ต๋อม น้ำแม่สอย น้ำแม่มอน น้ำแม่ปาน น้ำแม่ฮะ น้ำแม่ปอม น้ำแม่บึง น้ำแม่สุ่ย และน้ำแม่ค่อม เป็นต้น และเป็นแหล่งต้นกำเนิดของลำห้วยใหญ่ๆ ที่สำคัญเป็นสาขาของแม่น้ำวัง เช่น แม่น้ำสอย ห้วยแม่กา ห้วยแม่ปาน นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินเป็นแหล่งน้ำพุร้อน บริเวณกว้างถึง 2,400 ตารางเมตร มีน้ำพุร้อนผุดจากบ่อเล็กถึง 9 บ่อ เต็มไปด้วยโขดหินน้อยใหญ่ มีอัตราการไหลอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ซึ่งมีอัตราการไหลประมาณ 15 ลิตร/วินาที อุณหภูมิระหว่าง 39-47 องศาเซลเซียส
![]()
ลักษณะภูมิอากาศ ลักษณะภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จัดอยู่ในลักษณะภูมิอากาศแบบร้อนชื้นสลับแล้ง ประกอบด้วย ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม จะมีฝนตกชุกในเดือนกันยายน ปริมาณน้ำฝนในรอบปีมีฝนตกเฉลี่ยประมาณ 1,070 มิลลิเมตร มีการกระจายไม่สม่ำเสมอ โดยจะมีฝนตกชุกในช่วงต้นเดือนกันยายน และจะมีระยะฝนทิ้งช่วงระหว่างต้นเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม ฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 22 องศาเซลเซียส และฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งจะเป็นช่วงที่อากาศค่อนข้างจะร้อน อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 33 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปี 26 องศาเซลเซียส แต่โดยปกติอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดปี
![]()
พืชพรรณและสัตว์ป่า สังคมพืชของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนสามารถจำแนกออกได้เป็น ป่าเบญจพรรณ พบขึ้นอยู่โดยทั่วไปตามสันเขาและตามหุบเขาในระดับความสูง 400-1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ครอบคลุมพื้นที่โดยทั่วไปทางด้านทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติ พันธุ์ไม้เด่นที่พบส่วนใหญ่ประกอบด้วย สัก แดง ประดู่ แสมสาร กระบก กว้าว เก็ดแดง ติ้ว ซ้อ ปอกระสา ฯลฯ จะพบไผ่กระจายอยู่ทั่วไป เช่น ไผ่ซางนวล ไผ่ไร่ ไผ่หอบ พืชพื้นล่างและพืชอิงอาศัยที่พบมีกล้วยนวล กระชาย เล็บเหยี่ยว กะลังตังช้าง เครือออน เป็นต้น ป่าเต็งรัง พบอยู่ตามเชิงเขาไหล่เขาทางด้านทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติในระดับความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 700 เมตร พันธุ์ไม้เด่นที่พบได้แก่ เต็ง รัง เหียง พลวง มะกอกป่า แดง ประดู่ อ้อยช้าง กระโดน มะเกิ้ม โมกมัน มะค่าแต้ ฯลฯ พืชพื้นล่างที่พบได้แก่ หญ้าเพ็ก โจด และปรงป่า ป่าดิบเขา พบขึ้นอยู่ในระดับความสูงจากน้ำทะเลตั้งแต่ 800 เมตรขึ้นไป มีอยู่เป็นหย่อมๆ บริเวณตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติ พันธุ์ไม้เด่นที่พบได้แก่ ก่อเดือย ก่อแป้น ก่อตาหมู ไก๋ ทะโล้ เหมือด จำปาป่า ยางเหลือง ตะไคร้ต้น ฯลฯ พืชพื้นล่างที่พบ เช่น ไผ่ศก โชนผี และพืชในวงศ์ขิงข่า ป่าสนเขา ขึ้นเป็นหย่อมๆ บริเวณแนวสันเขา ไหล่เขา ที่มีความสูงมากกว่า 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล พันธุ์ไม้เด่นที่พบได้แก่ สนสองใบ สนสามใบ ก่อ จำปีป่า หว้า มะขามป้อมดง กำลังเสือโคร่ง ฯลฯ พืชพื้นล่างเป็นพวกหญ้า หนาด สาบหมา และพืชในวงศ์ข่า ป่าดิบชื้น พบอยู่ในบริเวณหุบเขา ตามริมห้วยลำธารต่างๆ บริเวณที่มีความชุ่มชื้นสูง พันธุ์ไม้เด่นที่สำคัญ ได้แก่ ยาง มะหาด มะไฟ อบเชย ชมพู่ป่า สะท้อนรอก ลำไยป่าเครือ คอแลน สะตอ ยมป่า พระเจ้าห้าพระองค์ พืชพื้นล่างที่พบเป็นพวก ไผ่เฮียะ เฟิน หวาย และพืชในวงศ์ขิงข่า เนื่องจากสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ และผสมปะปนกันอยู่หลายชนิด ตลอดจนระดับความสูงที่แตกต่างกันตั้งแต่ 300 - 2,000 เมตร จึงทำให้เกิดเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด สัตว์ป่าที่พบเห็นในเขตอุทยานแห่งชาติ ประกอบด้วย เก้ง กวางป่า เลียงผา หมูป่า เสือดาว หมีควาย ชะนีมือขาว ลิงลม เม่น หมูหริ่ง ชะมด พังพอน ลิ่นพันธุ์ชวา กระต่ายป่า กระรอกหลากสี กระแต อ้นใหญ่ หนูฟานเหลือง ค้างคาวไผ่หัวแบนเล็ก ไก่ป่า นกเขาเปล้า นกบั้งรอกใหญ่ นกแอ่นพันธุ์หิมาลัย นกกะเต็นน้อยธรรมดา นกโพระดกคอสีฟ้า นกนางแอ่นบ้าน นกพญาไฟใหญ่ นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า นกปรอดโอ่งเมืองเหนือ นกแซงแซวหางบ่วงใหญ่ นกเขียวคราม นกกินแมลงอกเหลือง นกกางเขนดง นกจับแมลงจุกดำ นกสีชมพูสวน ตะพาบน้ำ จิ้งจกดินลายจุด กิ้งก่าสวน แย้ขีด จิ้งเหลนบ้าน งูสามเหลี่ยม งูลายสอใหญ่ งูเขียวหางไหม้ท้องเขียว อึ่งกรายตาขาว คางคกบ้าน เขียดจะนา กบหนอง ปาดบ้าน และอึ่งขาดำ เป็นต้น ประมาณเดือนเมษายนของทุกปี จะมีจักจั่นป่ามารวมตัวกันบริเวณน้ำพุร้อน ซึ่งเชื่อกันว่าจักจั่นป่าเหล่านี้มาดื่มน้ำแร่
![]()
น้ำตกแจ้ซ้อน เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำน้ำแม่มอน มีน้ำไหลตลอดปี มีแอ่งน้ำรองรับตลอดสาย ไหลตกลงมาเป็นชั้นๆ มีความสูงทั้งหมด 6 ชั้นในแต่ละชั้นจะมีความสวยต่างกันออกไป อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเพียง 1 กิโลเมตร มีทางเดินไปถึงได้สะดวก และสามารถเดินจากบ่อน้ำพุร้อนไปถึงน้ำตกได้เช่นกัน
![]()
น้ำตกแม่มอญ เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลอย่างรุนแรงจากชะง่อนผาสูงลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง การตกของน้ำจะตกลงมาเป็นชั้นๆ สวยงามแปลกตา สภาพทั่วไปค่อนข้างอันตรายไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าน้ำตกเป็นเส้นทางขนส่งแร่เดิม
![]()
น้ำตกแม่ขุน อยู่ใกล้กับน้ำตกแม่มอญ มีลักษณะเป็นน้ำตกสายยาวสูงประมาณ 100 เมตรไหลลงมาบรรจบกับน้ำตกแม่มอญ ต้องเดินเท้าจากที่ทำการอุทยานประมาณ 5 กิโลเมตร ควรติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำทางด้วย
![]()
น้ำตกแม่เปียก เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งต่อจากน้ำตกแจ้ซ้อนเข้าถึงโดย เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการประมาณ 3 กิโลเมตร มีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยชั้นน้ำตก 3 ชั้น ความสูงประมาณ 100 เมตร
![]()
น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจ มีกลิ่นกำมะถันค่อนข้างอ่อน จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และมีไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณราวกับสายหมอก น้ำพุร้อนมีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของน้ำพุร้อนประมาณ 73 องศาเซลเซียส เป็นที่นิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่ สำหรับไข่ไก่แช่นานประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมีรสชาติมันอร่อยส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า
![]()
แอ่งน้ำอุ่น ตั้งอยู่ติดกับบ่อน้ำพุร้อน เป็นแอ่งน้ำที่เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของน้ำพุร้อนและน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน ทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิเหมาะแก่การแช่อาบ
![]()
ห้องอาบน้ำแร่ มีทั้งห้องอาบแบบแช่ ซึ่งมีอ่างสำหรับลงแช่อาบ จำนวน 11 ห้อง และห้องอาบน้ำแบบตักอาบ โดยแยกระหว่างห้องอาบชายหญิง จำนวน 16 ห้อง อุณหภูมิของน้ำแร่ประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การอาบเป็นอย่างยิ่ง การอาบน้ำแร่เป็นการบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่นช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น และยังช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น กลาก เกลื้อน ผื่นคัน เป็นต้น โดยน้ำแร่ที่ใช้อาบต่อท่อโดยตรงมาจากบ่อน้ำพุร้อน
![]()
ถ้ำผางาม อยู่บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ จซ.3 (ผางาม) ห่างจากที่ว่าการอำเภอวังเหนือประมาณ 8 กิโลเมตร มีถ้ำที่สามารถเข้าไปศึกษาและท่องเที่ยวได้จำนวนหลายถ้ำ เช่น ถ้ำผางาม (ถ้ำหนานขัด) ถ้ำน้ำ ถ้ำหม้อ ถ้ำหลวง ถ้ำลูกเกาะ เป็นต้น หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ จซ.3 อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 60 กิโลเมตร
![]()
ชมดอกเสี้ยวบาน ทุก ๆ ปี ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนจะงดงามด้วยดอกเสี้ยวที่บานประดับผืนป่า สามารถขับรถชมดอกเสี้ยวบานได้ตลอดเส้นทางแจ้ซ้อน-ป่าเหมี้ยง เป็นระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร
![]()
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ได้จัดทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเลียบลำห้วยแม่มอญ ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวได้ศึกษา หาความรู้ รวมทั้งได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ดังนี้
![]()
• เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกแจ้ซ้อน - น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยจะเริ่มต้นเดินทางตั้งแต่ลานบ่อน้ำพุร้อนจนถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำ แล้ววกกลับมาทางใหม่อีกจนถึงลานน้ำพุร้อน ตลอดเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษา
![]()
• เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกแม่เปียก มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง จะเริ่มเดินจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไปจนถึงน้ำตกแม่เปียก และเดินวกกลับมาอีกฟากหนึ่งของลำห้วย จนมาถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำและเดินกลับมาทางเดียวกับเส้นที่หนึ่ง ตลอดเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อให้ผู้สนใจได้ศึกษา
![]()
สถานที่ติดต่อ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ต.แจ้ซ้อน อ. เมืองปาน จ. ลำปาง 52240 โทรศัพท์ 0 5422 9000-1 โทรสาร 0 5426 3041
![]()
การเดินทาง รถยนต์ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนอยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดลำปางประมาณ 75 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปอุทยานแห่งชาติได้ดังนี้
![]()
• จากตัวเมืองลำปาง ไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1035 (ลำปาง-วังเหนือ) จนถึงปากทางเข้าอำเภอแจ้ห่มไปประมาณ 3 กิโลเมตร จนถึง กม.ที่ 58 เลี้ยวซ้ายมาตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1287 ซึ่งผ่านอำเภอเมืองปาน และเลี้ยวไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1252 (ข่วงกอม-ปางแฟน) เป็นระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานแห่งชาติตามทาง รพช.อีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
![]()
• จากตัวเมืองลำปางไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (ลำปาง-ห้างฉัตร) เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1157 (ลำปาง-ห้วยเป้ง-เมืองปาน) ระยะทาง 55 กม. เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1287 (เมืองปาน-แจ้ห่ม) ประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1252 อีกประมาณ 11 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานแห่งชาติตามทาง รพช.อีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
![]()
สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง
![]()
บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่นักท่องเที่ยว สามารถจองล่วงหน้าได้ โทร 09-8513255, 09-8515588, 054-229000
![]()
ร้านขายของที่ระลึก มีร้านจำหน่ายของที่ระลึกของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนสำหรับนักท่องเที่ยว
![]()
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.
![]()
ห้องอาบน้ำแร่ มีห้องสำหรับอาบน้ำแร่ไว้บริการแก่นักท่องเที่ยวมีทั้งแบบอาบฝักบัวและแบบเป็นห้องนอนแช่ในบ่อน้ำแร่ ซึ่งจะอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
![]()
General Information Jae Sawn National Park is a rich mountainous forest located in the northeast of Lumpang province. It is situated in the districts of Muang Bahn and Jae hom and covers an area of about 592 square km. The forest and mountains provide an important water source for the surrounding area. The Park has many interesting features including, waterfalls, caves and its famous hot springs. Along with many species of fauna and flora. All of this makes Jae Sawn an important place for tourism within Lumpang Province. Before Jae Sawn became the National Park it was a Forest Park which had two names Eang Nam Oun and Jae Sawn Waterfall The latter naming it after one of the Parks Waterfalls. Ministers approved the promotion of tourism in Lumpang province and the go ahead was given to convert Jae Sawn Waterfall into a National Park. Preparations were made from May 1986 to December 1987 for the celebration of the Kings 60th birthday at Jae Sawn Waterfall on the 5th December 1987. The Park was officially surveyed by Royal Forest Department staff soon after this and led to a decision by the board of directors, which in turn led to the Royal Decree that officially turned Jae Sawn into a National Park on 28th July 1988, becoming Thailand’s 58th National Park. Jae Sawn is a mountainous Park comprising of Pee Pan Nam western mountain range which runs on a north south axis. This mountain range forms the border between the provinces of Lumpang and Chiang Mai. The tallest mountain on this range is Doi (Mt.) Langgar the third tallest in Thailand. The forest provides an important source for the many creeks that flow down into the rive Wahng. Climate Jae Sawn has three distinct seasons. The rainy season runs from May through to October. In September there tends to be the heaviest rainfall. The cold season runs from November to February and this is the best season for visiting and especially walking in the Park. Hot season runs from March until April. Flora and Fauna The forest comprises of many types including hill evergreen forest, moist evergreen forest, pine forest, dipterocarp forest, and mixed deciduous forest. All spread throughout the Park with exact location depending on climate, elevation and soil type. Wildlife that you may see in the Park includes; barking deer, mouse deer, wild pig, Asian golden cat, rabbit, serow, flying lemur, monkey, skunk, bear and squirrels. There are also many bird species. Cicadas are particularly high in numbers during April every year when they visit the hot springs to drink. Jae Sawn Waterfall Jae Sawn Waterfall: originationg from Mair Mawn creek it has water flowing all year. It has many pools and comprises of six levels in total. It is located about 1km from the headquarters and can be reached by car or by foot.
![]()
Mae Mawn Waterfall Mae Mawn Waterfall: is fast flowing with a high fall comprising of many steps. It is 5km from the headquarters by dirt track.
![]()
Chae Son Hot Spring Hot Springs: Provide an interesting feature. There are 9 boreholes emiting the hot water from deep in the earth. The area is covered with many small rocks and you will notice the strange smell of sulphur in the air. The water emerges at a temperature of 73 degrees Celsius. Enabling you to boil an egg in it in about 17 minutes, if you so wished.
![]()
The Warm Spring The Warm Sprig: is a pool where the water from the hot spring meets with the cold water of Jae Sawn waterfall creating water that is a very pleasant temperature for taking a bath or a swim if you wish. The Hot Spring Rooms The Hot Spring Rooms: comprise of 11 rooms for relaxing in large pools of spring water and 16 rooms for taking a Thai style bath. The rooms are all linked by pipes to the hot spring. Bathing in the water is said to be good for healthy blood flow. You will have to pay to use these rooms.
![]()
Enjoy Dok Siew Dok Siew, Bauhinia tenuiflora Watt ex Clarke of family Caesalpiniaceae, blossoms in February every year in the mountains of Par Miang Village, about 18 kilometers from Jae Son National Park Office. The wild flower decoratively blossoms all over the mountains in which traveler can drive to enjoy its beauty.
![]()
Nature Trails There are two nature trails along Huay Mae Morn Stream. Jae Son Waterfall – Jae Son Hot Spring Nature Trail, about two kilometers and about one walking hour. It starts from the hot spring to electric water-power plant and goes by to the new route to meet the started point Mae Peak Nature Trail, about four kilometers and about two walking hours, starts from electric water-power plant to the same route mentioned above. There are signs showing details along the two routes.
![]()
Contact Address Chae Son National Park Chae Son Sub-district, Amphur Muang Pan Lampang Thailand 52240 Tel. 0 5422 9000-1 Fax 0 5426 3041
![]()
How to go? By Car The Park is located about 66km from Lumpang province. There are two ways to get to the Park which are accessible all year round. Starting from the sports stadium in Lumpang. Follow the Lumpang – Harnchad road, at the T-Junchtion in Ban Nam-Tong turn right and follow road number 1157 (Lumpang-Huai bang-Muang Bahn) for about 55km then turn right onto road number 1287 (Muang Bahn-Jae Hom). Travel for about 2km then turn left onto road number 1252 (Kuang Kom-Pang Fairng) it’s about 11km to the headquarters. In total about 65km Travel from Lumpang on road 1035 (Lumpang-Jae Hom) to Jae Hom, about 58km. Then turn left at the T-Junction at Ban Pongkob and follow road number 1287 (Muang-Jae Hom) for about 6km . Then turn right onto road number 1252 and follow it for 11km to the headquarters. In total about 75 km.
Latitude : 18.836960660351306, Longitude : 99.47078056828158
View Larger Map

View On Google Map
Edit Data
Images
-
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน Chae Son National Park
-
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน Chae Son National Park
-
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน Chae Son National Park
-
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน Chae Son National Park
-
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน Chae Son National Park
-
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน Chae Son National Park