Attraction อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก Phu Pha Lek National Park : สกลนคร
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กมีมีเนื้อที่ประมาณ 261,875 ไร่ หรือประมาณ 419 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอส่องดาว อำเภอวาริชภูมิ อำเภอนิคมน้ำอูน อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี และอำเภอสมเด็จ อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงพันนา ป่าดงพระเจ้า ป่าภูวง ป่ากุดไห ป่านาใน ป่าโนนอุดม ป่าบะยาว ป่าหัวนาคำ ป่าหนองหญ้าไชย และป่าแก้งกะอาม ในปี 2538 กรมป่าไม้ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ออกมาสำรวจข้อมูลเบื้องต้นในพื้นที่ ซึ่งต่อมาได้มีคำสั่งกรมป่าไม้ที่ 1162/2539 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2539 เรื่องให้ข้าราชการไปปฏิบัติราชการได้ให้นายพนม พงษ์สุวรรณ นักวิชาการป่าไม้ 7 ว. ส่วนอุทยานแห่งชาติ ไปดำเนินการสำรวจหาข้อมูลเพิ่มเติมและจัดตั้งพื้นที่ป่าอนุรักษ์บางส่วนของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงพันนา ป่าดงพระเจ้า ท้องที่อำเภอส่องดาว ป่าภูวง ท้องที่อำเภอวาริชภูมิ อำเภอนิคมน้ำอูน อำเภอกุดบาก ป่าแก่งแคน ท้องที่อำเภอกุดบาก ป่าหนองหญ้าไซ ท้องที่อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดธานี ผนวกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูพาน ท้องที่อำเภอคำม่วง อำเภอสมเด็จ ป่าแก้งกะอาม ท้องที่อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 นั้น นายพนม พงษ์สุวรรณ ไปสำรวจหาข้อมูลและประวัติดั้งเดิมในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ดังกล่าวข้างต้นพร้อมกับหาข้อมูลเพิ่มเติมจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ศูนย์คอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น พบว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ป่ารักน้ำ เป็นแห่งแรกของประเทศไทย อันเป็นโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรม ราชินีนาถ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2525 ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2537 นายผ่อง เล่งอี้ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มาตรวจราชการและเห็นความสำคัญของพื้นที่ดังกล่าว จึงมีบัญชาให้สำรวจเป็นอุทยานแห่งชาติ โดยใช้ชื่อว่า อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก-ภูผาหัก ต่อมาในปีพ.ศ. 2539 ได้อนุมัติให้ตัดคำว่า ภูผาหัก ออกใช้ชื่อว่า “อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก” เป็นต้นมา
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก Phu Pha Lek National Park
ลักษณะภูมิประเทศ อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กตั้งอยู่บริเวณเส้นรุ้ง 17o 15' – 16o 49' เหนือ และเส้นแวง 103o 15' – 103o 50' ตะวันออก เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพานที่ทอดยาวในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก มีความยาวประมาณ 54 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 200-600 เมตร ภูเขาที่สูงที่สุดในพื้นที่คือ ภูอ่างสอ ที่ระดับความสูง 695 เมตร พื้นที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กเป็นแหล่งกำเนิดลำห้วยน้อยใหญ่ที่สำคัญ ได้แก่ แม่น้ำสงคราม ลำน้ำยาม ลำน้ำอูม ลักษณะดินโดยทั่วไปเป็นดินร่วนปนทรายตามป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณและดินลูกรังตามป่าเต็งรัง หินที่พบในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นหินทราย
ลักษณะภูมิอากาศ บริเวณอุทยานฯมีภูมิอากาศแบบมรสุม ฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อากาศร้อนมาก อุณหภูมิประมาณ 40o C มักมีไฟป่าเกิดขึ้นทั่วพื้นที่ ฤดูฝนระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม และฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ อากาศหนาวเย็น อุณหภูมิประมาณ 15-20 o C ประมาณน้ำฝนตลอดปีประมาณ 1,000-1,300 มิลลิเมตร
พืชพรรณและสัตว์ป่า สังคมพืชในเขตอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กเป็นป่าที่มีสภาพอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วย ป่าเต็งรัง พบบนพื้นที่ราบเชิงเขาและบนที่ลาดชันจนถึงระดับความสูงประมาณ 500 เมตรจากระดับน้ำทะเล พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ เต็ง รัง เหียง พลวง ประดู่ป่า ตะแบกเลือด รกฟ้า มะค่าแต้ ติ้ว ยอป่า ฯลฯ พืชพื้นล่างประกอบด้วยหญ้าเพ็กแทรกด้วยไม้พุ่มและพืชล้มลุก ป่าเบญจพรรณ ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดในอุทยานแห่งชาติ พบตั้งแต่บนพื้นที่ราบเชิงเขาและที่ลาดชันตามไหล่เขาจนถึงระดับความสูง 600 เมตรจากระดับน้ำทะเล พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ชิงชัน แดง ประดู่ กระบก มะกอก งิ้วป่า มะค่าโมง กระโดน โมกมัน มะขามป้อม ฯลฯ พืชพื้นล่างประกอบด้วยไผ่รวก ไผไร่ ไผ่ซางหม่น หนามคณฑา สังกรณี ผักหวานป่า เป็นต้น และ ป่าดิบแล้ง พบตามฝั่งลำธารของหุบเขาที่มีความชุ่มชื้น พันธุ์ไม้ที่พบได้แก่ ยางแดง หว้า มะม่วงป่า สัตตบรรณ ตาเสือ มะไฟ ก้านเหลือง ฯลฯ พืชพื้นล่างเป็นพวกหวาย ปาล์ม และสมุนไพรต่างๆ ตามบริเวณลานหินทางขึ้นภูผาเหล็กความสูงประมาณ 400-550 เมตรจากระดับน้ำทะเล จะมีสภาพเป็นป่าโปร่ง ไม้ยืนต้นที่ขึ้นจะแคระแกร็น ส่วนใหญ่มีใบหนา ที่พบทั่วไปได้แก่ สารภีดอย ทะโล้ สะเม็ก ก่อ ไม้พุ่มเช่น ส้มแปะ เม้าแดง ตามลานหินมีพืชพวกจำพวกไลเคน ฟองหิน เอื้องคำหิน ม้าวิ่ง เขากวาง ดาวเรืองภู ต่างหูขาว เนียมดอกธูป หญ้าหัวเสือ หางเสือลาย แววมยุรา หญ้าข้าวก่ำ กระดุมเงิน ส่าหร่ายข้าวเหนียว และดุสิตา สัตว์ป่าที่พบเห็น ได้แก่ เก้ง ลิงกัง กระต่ายป่า กระแต หนูหริ่ง ตุ่น เม่น พังพอน อีเห็น เหยี่ยวรุ้ง นกเขาเปล้า นกกระปูด นกตะขาบทุ่ง นกโพระดก นกขมิ้น นกปรอดก้นแดง นกแซงแซวสีเทา นกจาบดินอกลาย ตุ๊กแก จิ้งจกป่าสีจาง เต่าเหลือง งูทางมะพร้าว งูเห่า งูจงอาง งูเขียวหางไหม้ อึ่งอี๊ดหนังลาย อึ่งอี๊ดเทาจุดดำ เขียดท้ายทอยดำ เขียดหนอง คางคก กบหมื่น และปาดนิ้วแยกลาย เป็นต้น
สุสานไดโนเสาร์ ตั้งอยู่บริเวณกลางเขาภูผาเหล็ก อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร และบริเวณชายป่าภูพาน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีลักษณะเป็นกระดูกสัตว์ที่กลายเป็นหินมีอายุ หลายล้านปีทับถมกันจำนวนมาก บางส่วนยังฝังอยู่ในหิน ในดิน มีลักษณะเป็นฟอสซิลของสัตว์และพืช เช่น ไม้กลายเป็นหินจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนพิสูจน์จึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นสัตว์ชนิดใด อายุเท่าไร ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างกว่า 1,250 ไร่ และประมาณว่ามีซากสัตว์ดึกดำบรรพ์มากกว่าร้อยทับถมกันอยู่ จึงจัดว่าเป็นพื้นที่สุสานไดโนเสาร์ก็ว่าได้
ภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ผาผักหวาน เป็นภาพเขียนโบราณ อายุประมาณ 3,600 ปี อยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ เป็นภาพลักษณะคล้ายผู้หญิง ทรงผมกลมโต ยืนเรียงกันเป็นแถวโดยใช้มือเกาะไหล่กัน คล้ายทำกิจกรรมอะไรบ้างอย่าง เป็นลักษณะน่องโป่งระบายด้วยสีแดงทึบอยู่ในป่าดง พันนา ป่าดงพระเจ้า บ้านภูตะดาม ตำบลท่าศิลา ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 18 กิโลเมตร กิจกรรม :ชมประวัติศาสตร์
ด้านธรรมชาติที่สวยงาม
ผาสุริยันต์ เป็นหน้าผาสูงอยู่บนยอดสูงสุดของภูผาเหล็ก เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามและเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้สวยงามนและน่าประทับใจ
ผาดงก่อ เป็นหน้าผาสูงอยู่บนยอดภูผาเหล็กถัดจากผาสุริยันต์มาทางทิศตะวันออก เป็นจุดชมทิวทัศน์ สามารถมองเห็นบริเวณป่าทึบและเทือกเขาสลับซับซ้อนกันมากมาย ผาน้ำโจ้ก เป็นหน้าผาสูงอยู่ยอดภูผาเหล็กทางทิศตะวันออก เป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำห้วยหาด และมองได้ไกลถึงจังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น และสามารถชมดวงอาทิตย์ตกดินในยามอัสดงได้สวยงามมาก
หอส่องดาว ตั้งอยู่บนยอดเขาภูผาเหล็ก ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 700 เมตร สามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบด้านได้เกือบ 360 หอส่องดาวจึงใช้เป็นสามารถที่สำหรับศึกษา ดวงดาวในเวลากลางคืน และชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกได้ชัดเจนมาก และทุกครั้งที่มีปรากฏการณ์ฝนดาวตก นักท่องเที่ยวก็จะมาจองพื้นที่บริเวณกันจำนวนมากกว่าพันคน
ป่าหินดานมันปลา เป็นโขดหินทรายที่สลับซับซ้อนเป็นบริเวณกว้างประมาณ 2 พันไร่ มีทุ่งหญ้าและลานดอกไม้ขึ้นสวยงาม เช่น ดอกกระดุมเงิน ดอกเอนอ้า ดอกหญ้าหัวก่ำดำ ดอกดาวอีสาน และดอกตองหมอง ฯลฯ
ลานอุษาสวรรค์ เป็นบริเวณที่ราบบนยอดภูผาเหล็ก เนื้อที่ประมาณ 1,550 ไร่ ซึ่งมีสภาพเป็นทุ่งหญ้าป่าละเมาะ เขาและโขดหินทอดสลับกับทุ่งหญ้า ดูคล้ายสวนประดิษฐ์ มีดอกไม้ป่าขึ้นมากมาย เช่น ดอกสารภีดอย ดอกเอนอ้า ดอกดาวเรืองภู ดอกม้าวิ่ง ดอกหญ้าข้าวก่ำ ดอกกระดุมเงิน ดุสิตตา ฯลฯ
อ่างเก็บน้ำต่าง ๆ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็กที่มีทิวทัศน์สวยงาม เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหยาด อ่างเก็บน้ำห้วยมะไฟตอนบน อ่างเก็บน้ำห้วยกระเชอ และอ่างเก็บน้ำห้วยหาด
ถ้ำต่าง ๆ บริเวณเทือกภูผาเหล็ก มีถ้ำที่น่าสนในเหมาะแก่การท่องเที่ยว พักผ่อน และผจญภัยในการเดินป่า เช่น ถ้ำแกลบ ถ้ำท้องช้าง ถ้ำทองคำ (ถ้ำจิก)
น้ำตกแก่งกุลา เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่ไหลลงจากเทือกภูผาเหล้กทางด้านทิศเหนือ มีน้ำตลอดทั้งปี มีน้ำมากในฤดูฝน สายน้ำจะไหลรวมกันเป็นลำน้ำ ไหลลงสู่เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร
น้ำตกดีหมี เป็นน้ำตกขนาดปานกลางมีน้ำไหลตลอดทั้งปี อยู่บนสันเขาภูสันตาแสงและภูผาแดงพื้นที่อำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี น้ำตกดีหมีเป็นต้นน้ำของห้วยลำพันชาด ที่ไหล ลงสู่เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ และลงสู่แม่น้ำชี
น้ำตกเก้าชั้น เป็นน้ำตกขนาดเล็กลดหลั่งจากยอดเขาภูผาเหล็ก และไหลลงอ่างเก็บน้ำห้วยมะไฟตอนบน และไหลลงสู่แม่น่ำสงคราม มีน้ำในฤดูฝน ประมาณ 8 เดือน
สถานที่ติดต่อ อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก บ้านท่าวัด ต.ปทุมวาปี อ. ส่องดาว จ. สกลนคร 47190
การเดินทาง
รถยนต์ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร ซึ่งคล้อยมาทางจังหวัดอุดรธานี ฉะนั้น เส้นทางที่สะดวกที่สุดที่จะเข้าสู่พื้นที่คือ เริ่มจากจังหวัดอุดรธานี
• เส้นทางจังหวัดอุดรธานี-สกลนคร มาตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 จนถึงทางแยกหลัก กม. ที่ 95 (ที่ตั้งเรือนจำจังหวัดสว่างแดนดิน) ให้เลี้ยวขวาไปตามถนน รพช. สายบ้านต้าย-ดอนส้มโฮง ถึงทางแยกบ้านโพนสว่าง หลัก กม. 17 ให้เลี้ยวขวาไปตามถนน รพช. สายบ้านโพนสว่าง – ภูผาเหล็ก อีก 6 กม. ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก
• เส้นทางจังหวัดอุดรธานี-สกลนคร เมือถึงหลักกิโลเมตรที่ 95 ให้ตรงมาอีก 20 กิโลเมตร จะถึงตลาดของอำเภอสว่างแดนดิน จึงเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางอำเภอสว่างแดนดิน-อำเภอส่องดาว ผ่านตัวอำเภอให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนน รพช. สายบ้านต้าย-ดอนส้มโซม แล้วแยกเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติบริเวณกิโลเมตรที่ 17 เช่นกัน รวมระยะทางจากจังหวัดอุดรธานี ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก ประมาณ 82 กม.
General Information “Most of the forest in Phu Pha Lek National Park is productive. It is the source of the main rivers—which can be called “Forest of Water” an only one remained and very important for people in upper Northeastern Thailand, of Song K้hram River, Shi River, Uun River, Huy Lamphanchard, Huy Kracher etc. There are also the main reservoirs, under the patronage of His Majesty the King, such as Nam Uun Dam, Lampaow Dam and about 20 reservoirs around the park for people to use in consuming and agriculture.
Topography Phu Pha Lek National Park, locates between latitude 17 o 15;'– 16o 49 ' north and longitude 103o 15' – 103o 50' east, is a part of Phu Phan Mountain Range lying east and west about 54 kilometers and approximately 200 – 600 meters above sea level. The highest mountain is Phu Ang Sor about 695 meters above sea level. The area is the source of many big and small important-rivers such as Song Kram River, Yam River and Uum River. The soil in semi-evergreen forest is sandy soil, and in mixed forest and deciduous forest is laterite. And the stone is mostly sandstone.
Climate The weather in this area is monsoon climate. Summer is from March to May; it is very hot approximately 40 o C so that can often cause forest fire everywhere. Rainy season is from June to October and about 1,000 – 1,300 mm. of rain all the year round. Winter is from November to February; it is cold approximately 15 -20 o C.
Flora and Fauna There is deciduous forest spreading all over the foot and top of mountains which consists of valuable plants such as Siamese sal, ingyin, Hiang (a kind of Dipterocarpaceae) and eng, and lower bracken such as slender bamboo (a kind of Graminceae) and Krajeaw (a kind of Zingiberaceae). At the valley is mixed forest, and plants found are rosewood, ironwood, Burmese ebony, Makhaa Tae, and many kinds of bamboo such as sang, Khao Larm bamboo, Rai, Ruag and wild bamboo. Along the streams are semi-evergreen forest, and plants found are Yang, Krabak (a kind of Dipterocarpaceae), Malabar ironwood, Tabak (a kind of Lagerstroemia), Makhaa mong, and lower bracken such as rattan, palm and many kinds of herb. And animals found are wild boar, barking deer, mouse deer, monkey, langur, squirrel, land monitor, snake, and many kinds of bird. The other kinds of animal are also in being threatened condition because local people still hunt.
Dinosaurs Grave locates in the middle of Phu Pha Lek Mountain, Song Dao district, Sakon Nakhon, and near the edge of Phu Phan Forest, Kham Muang district, Kalasin province. There are many animal stony-bones which crystallized during fossilization; some are still in the ground and stone, some are fossils of plants and animals and some are stony plants. Now, there is no clear evidence what animals and how old they are. The area, about 1,250 Rais (2,000,000 squares meters), has been estimated that more than hundred of animal remains haunting so that can be suitable for the name ‘Dinosaurs Grave’.
Pre-historic Wall Painting There is Pre-historic Painting, about 3,600 years ago, on a big rock. In the picture, painting with dense-red color, showing portly women standing in line, their hands on other shoulders, looks like they are doing an activity. The area is in Pa Dong Phanna and Pa Dong Pra Chao, Phu Takam Village, Tha Sila Sub-district, 18 kilometers away from the park’s office.
AcDong Ko Cliff is a high cliff on the peak of Phu Pha Lek next to the east of Suriyan Cliff. The area is also a good view point which traveler can enjoy seeing dense forest and complicatedly high mountains.
Nam Chok Cliff is a high cliff on the east part of the Peak of Phu Pha Lek Mountain. The area is a good view point which traveler can enjoy seeing Huai Huat Reservoir until out of sigh in Udon Thani Province and Khon Kan Province, and wonderful scenery of sunset in the evening.
Ho Song Dao located on the peak of Phu Pha Lek Mountain about 700 meters above sea level. Traveler can see surrounding scenery almost 360 degrees so that suitable for studying stars at night and Meteor shower clearly. Every time having Meteor shower, there are crowded with thousands of travelers.
Hin Darn Man Pla Forest is the forest of sandstone boulders complicatedly overlapping each other. The area is about 2,000 Rais (3.2 squares kilometers) and has beautiful grass and flower field which consists of very beautiful flowers such as Eriocaulon henryanum Ruhle, many kinds of Hypoxis daceae and Burmanniaceae etc.
Lan U-sa Sawan is a plain on the peak of Phu Pha Lek Mountain about 1,550 Rais. The area is groves forest and has boulder groups alternating with grass fields look like artificial garden. There are many wild flowers such as many kinds of Hypoxis daceae and Burmanniaceae, Eriocaulon henryanum Ruhle, Dusita (Utricularia delphinioides Thor. ex Pell) etc.
Contact Address Phu Pha Lek National Park Ban Thawat, Pathumwapi Sub-district, Amphur Song Dao Sakhon Nakhorn Thailand 47190
How to go?
By Car Phu Pha Lek National Park’s office is located in Song Dao district, Sakon Nakhorn Province. It is very near Udon Thani Province so that more convenient way to enter the area is to start from Udon Thani Province. Use national road number 22 (Udon Thani - Sakhon Nakhorn), turn right at Km. 95 (Sawang Dan Din Jail of the province) to ARD Road Ban Tai – Don Som Hong, turn right at Km. 17 (Ban Pone Junction) to ARD Road Ban Pone Swang – Phu Par Lek, and go another 6 kilometers to Phu Pha Lek National Park’s temporary office. Approximately 82 kilometers from Udon Thani Province to Phu Pha Lek National Park’s temporary office.
Latitude : 17.26748149759597, Longitude : 103.45798526857105
View Larger Map
View On Google Map
Edit Data
Images
-
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก Phu Pha Lek National Park
-
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก Phu Pha Lek National Park
-
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก Phu Pha Lek National Park
-
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก Phu Pha Lek National Park
-
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก Phu Pha Lek National Park
-
อุทยานแห่งชาติภูผาเหล็ก Phu Pha Lek National Park