อุโมงค์ขุนตาน เป็นอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างโดยชาวเยอรมัน มีเนื้อที่ประมาณ 159,556.25 ไร่ หรือ 255.29 ตารางกิโลเมตร

ลักษณะภูมิประเทศ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาขุนตาลซึ่งเป็นเทือกเขาที่แบ่งระหว่างที่ราบลุ่มเชียงใหม่และที่ราบลุ่มลำปาง เป็นเทือกเขาสูงชันสลับซับซ้อน สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 325-1,373 เมตร จุดสูงสุดในเขตอุทยานแห่งชาติได้แก่ ดอยขุนตาล มีที่ราบอยู่เพียงเล็กน้อยอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติ เป็นแหล่งต้นน้ำส่วนหนึ่งของแม่น้ำปิงซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของพื้นที่ และแม่น้ำวังซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตอุทยานแห่งชาติ ลำน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำวังได้แก่ น้ำแม่ค่อม น้ำแม่ต๋ำ น้ำแม่ไพร เป็นต้น ส่วนที่ไหลลงสู่น้ำแม่ทาและออกสู่แม่น้ำปิงในที่สุด ได้แก่ ห้วยแม่ป่าข่า ห้วยแม่ยอนหวายหลวง ห้วยทุ่งไผ่ ห้วยสองท่า ห้วยแม่โฮ่งห่าง เป็นต้น

 

ลักษณะภูมิอากาศ พื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลตั้งอยู่ภาคเหนือของประเทศ ได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งพัดมาจากมหาสมุทรอินเดีย และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดมาจากผืนแผ่นดินใหญ่ของประเทศจีน ทำให้เกิดฤดูกาล 3 ฤดู คือ ฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่าน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนตุลาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยรายปีอยู่ในช่วง 1,050-1,290 มิลลิเมตร และต่อด้วยฤดูหนาว ซึ่งอยู่ในช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ และในช่วงเปลี่ยนฤดูมรสุม ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน จะเป็นฤดูร้อน ซึ่งอากาศจะร้อนอบอ้าวก่อนที่จะเริ่มฤดูฝนต่อไปในเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปี 26 องศาเซลเซียส เฉลี่ยต่ำสุดในเดือนธันวาคม และสูงสุดในช่วงเดือนเมษายน

 

พืชพรรณและสัตว์ป่า สังคมพืชของอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาลสามารถจำแนกออกได้เป็น ป่าดิบแล้ง ขึ้นครอบคลุมพื้นที่ที่มีความชื้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะตามหุบเขาหรือร่องห้วย เช่น หุบเขาแม่ตาลน้อย ห้วยแม่ไพร ห้วยแม่เฟือง ห้วยแม่ออน ห้วยหลวง และห้วยแม่ค่อม โดยมีระดับความสูงจากน้ำทะเลเฉลี่ย 500-1,000 เมตร ชนิดไม้ที่พบได้แก่ โพบาย ยาง ตะคร้ำ สัตตบรรณ ตะเคียน ยมหอม มะหาด มะม่วงป่า กระท้อน พระเจ้าห้าพระองค์ ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ หวาย พืชในวงศ์ขิงข่า ผักกูด ผักหนาม และเฟิน เป็นต้น ป่าดิบเขา ขึ้นปกคลุมพื้นที่ที่มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,000 เมตรขึ้นไป ชนิดไม้ที่พบได้แก่ ก่อเดือย ก่อแป้น ก่อหัวหมู ก่อน้ำ มะก่อ ทะโล้ จำปาป่า แหลบุก สารภีป่า รักขาว ลำพูป่า ฯลฯ ป่าสนเขา พบกระจายเป็นหย่อมเล็กๆ บริเวณ ย.2 ย.3 และ ย.4 ป่าสนเขาในบริเวณนี้เป็นป่าที่ปลูกขึ้นมากว่า 50 ปี ชนิดสนที่พบได้แก่ สนสามใบ นอกจากนี้ยังมีไม้อื่นขึ้นปะปนได้แก่ กางขี้มอด กระพี้เขาควาย มะขามป้อม มะกอกเกลื้อน ประดู่ตะเลน อ้อยช้าง แข้งกวาง เป็นต้น ป่าเต็งรัง ขึ้นปกคลุมตามเชิงเขาโดยรอบทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีสภาพดินเป็นกรวดหรือดินลูกรัง มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ชนิดไม้ที่พบได้แก่ พลวง เหียง รักใหญ่ เก็ดแดง กาสามปีก รกฟ้า ฯลฯ พืชพื้นล่างได้แก่ เป้งเขา และหญ้าชนิดต่างๆ ป่าเบญจพรรณ เป็นป่าที่ขึ้นระหว่างป่าเต็งรังและป่าดงดิบบริเวณเชิงเขาทั้งทางด้านตะวันตกและตะวันออกของอุทยานแห่งชาติ มีไผ่ซางขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ชนิดไม้ที่พบได้แก่ มะเกลือเลือด แดง มะกอกเกลื้อน สมอพิเภก ตะแบกแดง และงิ้วป่า เป็นต้น สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ประกอบด้วย เก้ง หมูป่า ชะมดแผงหางปล้อง อ้นเล็ก กระแตเหนือ กระรอกท้องแดง กระเล็นขนปลายหูสั้น กระจ้อน ค้างคาวขอบหูขาวกลาง หนูท้องขาว ไก่ป่า นกยางกรอกพันธุ์จีน นกยางไฟหัวน้ำตาล นกคุ่มอกลาย นกปากซ่อมหางพัด นกชายเลนน้ำจืด นกเด้าดิน นกเขาไฟ นกอีวาบตั๊กแตนนกบั้งรอกใหญ่ นกกระปูดใหญ่ นกเค้ากู่ นกแอ่นตาล นกกะเต็นน้อย นกจาบคาเล็ก นกตะขาบทุ่ง นกตีทอง นกเด้าลมเหลือง นกเขนน้อยปีกแถบขาว นกขมิ้นน้อยสวน นกเขียวก้านตองปีกสีฟ้า นกปรอดเหลืองหัวจุก นกไต่ไม้หน้าผากกำมะหยี่ นกกินปลีอกเหลือง จิ้งจกหางแบน กิ้งก่าบินปีกสีส้ม จิ้งเหลนหลากหลาย ตะกวด งูลายสอสวน งูเขียวหางไหม้ท้องเขียว คางคกบ้าน กบหนอง และอึ่งข้างดำ เป็นต้น

จุดยุทธศาสตร์ที่ 1 "ย.1" เดินทางเท้าจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ระยะทางประมาณ 1,500 เมตร จะถึง ย. 1 บริเวณนี้เป็นที่ตั้งบ้านพักรับรองของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินเคยใช้เป็นที่ประทับแรมระหว่างการก่อสร้างอุโมงค์ ปัจจุบันการรถไฟประเทศไทย เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว

จุดยุทธศาสตร์ที่ 2 "ย.2" ย.2 อยู่ห่างจาก ย.1 ประมาณ 800 เมตร บริเวณนี้มีสนเขาขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้บริเวณนั้นมีความร่มเย็นสวยงามตามธรรมชาติ ในอดีตบริเวณที่ใกล้ๆ ยอดเขาเคยเป็นแค็มป์ของบริษัททำไม้ ซึ่งมาหยุดกิจการช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากนั้น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้ซื้อพื้นที่นี้เพื่อสร้างบ้านพักและปลูกสวนดอกไม้ สวนผลไม้ เป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัว มีสวนลิ้นจี่ สถานที่นี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จไปพักผ่อนอิริยาบทที่เรือนรับรองนี้ 2 ครั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2512 และ 2516 

 

จุดยุทธศาสตร์ที่ 3 "ย.3" ห่างจาก ย. 2 ประมาณ 3,500 เมตร สภาพร่มรื่นด้วยป่าดิบเขาและมีนกป่าสวยงามให้ชมตลอดทาง เช่น นกสาลิกาเขียว นกพญาไฟใหญ่ นกปีกลายสก็อต นกไต่ไม้หน้าผากกำมะหยี่ ฯลฯ บริเวณนี้เป็นสถานที่ที่คณะมิชชันนารีอเมริกันคริสตจักร ได้มาสร้างบ้านพักท่ามกลางดงสนเขา ภายหลังจากที่มีการสร้างทางรถไฟเสร็จแล้ว และคณะมิชชันนารีจะเดินทางมาพักผ่อนในเดือนเมษายนเป็นประจำทุกปี ปัจจุบันบ้านพักอยู่ในการดูแลของมหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ และเปิดบริการให้แก่นักท่องเที่ยวทั่วไป

 

จุดยุทธศาสตร์ที่ 4 "ย.4" ย.4 อยู่ห่างจาก ย.3 มาประมาณ 1,000 เมตร เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาขุนตาล ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสถานที่ส่องกล้องทางไกล ซึ่งเรียกว่า ม่อนส่องกล้อง สามารถมองเห็นทัศนียภาพตัวเมืองลำปางได้อย่างชัดเจน ก่อนถึงยอดเขานี้จะผ่านป่าธรรมชาติที่ร่มรื่นและเย็นสบายตลอดทาง 

น้ำตกตาดเหมย น้ำตกนี้อยู่แยกจากเส้นทางด้านซ้ายมือ ระหว่างทางจาก ย. 2 ไป ย. 3 โดยต้องเดินทางลงไปในหุบเขาแม่ยอนหวาย ประมาณ 300 เมตร 

น้ำตกแม่ลอง น้ำตกนี้อยู่ทางทิศใต้ของสถานีรถไฟขุนตาน ห่างไปประมาณ 10 กิโลเมตร โดยลงรถไฟที่สถานีแม่ตาลน้อย แล้วเดินเท้าไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีน้ำตกอยู่ตลอดปี สภาพป่าร่มเย็นตลอดทั้งปี

สถานที่ติดต่อ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล หมู่ 8 ต.ทาปลาดุก อ. แม่ทา จ. ลำพูน 51140 โทรศัพท์ 0 5351 9216-7 

 

การเดินทาง รถยนต์ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ผู้ที่มาเยือนสามารถเดินทางทางรถยนต์ได้ 2 เส้นทาง คือ • จากแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 สายลำปาง-เชียงใหม่ บริเวณกิโลเมตรที่ 15 - 16 บริเวณใกล้อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ให้เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 28 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ • เดินทางตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แยกขวาระหว่างกิโลเมตรที่ 46 - 47 บริเวณอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เป็นทางลาดยาง ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ

รถไฟ ตามเส้นทางรถไฟสายเหนือ โดยลงที่สถานีขุนตาลแล้วเดินประมาณ 1.3 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล

ที่พักแรม/บ้านพัก มีบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยว จำนวน 7 หลัง

สถานที่กางเต็นท์/เต็นท์ อุทยานแห่งชาติจัดเตรียมเต็นท์และสถานที่กางเต็นท์ ไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว การสำรองที่พักเต็นท์สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักเต็นท์ได้กับอุทยานแห่งชาติโดยตรง 

ค่ายเยาวชน มีค่ายพักเยาวชนให้บริการ จำนวน 1 หลัง พักได้ 48 คน

บริการอาหาร มีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 8.00 - 16.30 น.

 

General Information Located in the mountain of the northern Thailand, Doi Khun Tan National Park is home to many interesting species both flora and fauna, as well as many historical spots of interest. Its most renowned feature is Thailand’s longest railroad tunnel, which is 1,352 m. long. Doi Khun Tan National Park straddles the mountains separating Lamphun and Lampang Provinces, covering 255.29 sq.km and ranges in elevations from 325m to 1,373m at the summit. Established in 1975, it was the 10th National Park in Thailand.

 

Doi translates to mountain in Northern Thai, while Khun Tan refers to the numerous streams and watershed flowing down from the mountain.

 

Climate The three basic seasons are summer, from March to June, rainy, from July to October, and winter, from November to February. The temperature varies from 38 degree celsius during the hot season, to as cold as 5 degree celsuis. Rainfall, which falls mostly during the rainy season, averages about 1,034 mm. per year.

 

Flora and Fauna The forests of Doi Khun Tan have changed dramatically in the past century due to human disturbance. The forests can be divided into three types, with distinct elevational ranges. Lowland elevations (325-850 meter). Originally a teak forest, the lowland elevation is composed of a degraded mixed bamboo deciduous forest as deciduous Dipterocarp- oak forest. Middle elevations (850-1,000 meter). This is a transitional area where the lowland deciduous forest and upland evergreen- pine forest mix to from the mixed evergreen and deciduous forest. Here are only two species of pine trees in Thailand, a two –needle pine (Pinus merkusii) and three-needle pine (P. kersiya) both of which can be found here. Upland Elevations (1,000-1,373 meter). The forest here is composed mostly of evergreen hardwood trees and a minority of pine (Pinus merkusii) to from an evergreen- pine forest . Much of the forest and watershed on the west side of the national park have been distrubed; however, pristine conditions are found on the east side In addition, Doi Khun Tan offers year-round viewing of wild-flowers such as orchids, and gingers. Doi Khun Tan is botanically very diverse, home to over 1,300 different vascular species. Numerous edible and fungi fond in the park. Some wildlife still exists in Doi Khun Tan, including the Siamese hare, porcupine, wild chicken, wild boar and weasel, as a variety of birds, reptiles, spiders and insects. The effects of hunting, logging, frequent fires and human encroachment have greatly reduced their numbers. In the past, gibbons, tiger, elephants, bears, wild cattle, serow, slow loris, barking deer and many other species were also residents of Doi Khun Tan, but they are all gone.

 

Doi Khun Tan National Park Doi Khuntan provides year-round viewing of wild-flowers such as orchids, and lilies. Doi Khuntan is very botanical diversity and fungi are also found in the park. In addition to walk on the trail to the summit of Doi Khun Tan which is approximately 8km from the Khun Tan train station, visitors can also visit the four different waterfalls which flow during the rainy and cold seasons. The beautiful Tat Moei waterfall is the most accessible with a 6km hike round-trip from park headquarters. A self-guided nature trail and tree map are available for this trail. The Huai Mae Phrai is even more magnificent and is accessible by a 12km hike round trip from the park station at Mae Phrai in Hang Chat district, Lampang province. Please Select Attraction : + Historical Khun Tan Railway Tunnel + The Beautiful of Nature High Mountains "yaw 1" High Mountains "Yaw 2" High Mountains "Yaw 3" High Mountains "Yaw 4" Tat Moie Waterfall Mae Long Waterfall

 

Khun Tan Railway Tunnel Construction of the tunnel at Khun Tan, which was cut through the solid granite bedrock, had began in 1907 under the reign of King Rama V, and was completed in 1918. Khun Tan tunnel has another name called cemetery of laborers as it is said that over 1,000 workers died while constructing the tunnel because of the suffocation, accidents, malaria, tigers, and fighting amongst themselves. The workers were mostly from the northeast of Thailand and many of them were opium addition to wages. Emil Eisenhofer, a German railroad engineer was assigned in building the tunnel. A monument in front of the tunnel contains Eisenhofer’s ashes is dedicated to him and all the workers who died while building this tunnel.

 

High Mountains "yaw 1" In 1917, the State Railway of Thailand also built a vacation house at Yaw 1 (Camp 1) while building the railroad and tunnel in the valley below. Emil Eisenhofer, the german engineer instrumental in building the tunnel, stated at this house as well as any visiting Thai dignitaries. The house at Yaw 1 is still in execellent condition and open to tourists.

 

High Mountains "Yaw 2" Yaw 2 (Camp 2) is located 800 metres away from Yaw 1, at Yaw 2 (Camp 2), dense pine trees offer a naturally peaceful atmosphere. Before reaching the summit, there is a guesthouse decorated with various winter plants and including a lychee garden. The house also has the royal seal of approval; His Majesty the King has spent two vacations here.

 

High Mountains "Yaw 3" Yaw 3 (Camp 3) is located 3,500 metres away from Yaw 2 and is the highest summit in the mountain range (Mon Song Klong) offering magnificent views over Lampang. Before reaching the summit, there are seven missionary houses available for renting. More information can be found by contacting Payup University, Chiang Mai.

 

High Mountains "Yaw 4" Doi Khuntan also saw activity during World War ll. The Thai millitary used the highest peak of Doi Khuntan, or Yaw 4 as a look out point for military operations. It was at this time the term Yaw or "Yutasat" which translates literaly to "strategic camp", was introduced for the different retreats. Today, a visit to Yaw 4 provides a beautiful view of the valleys and surrounding mountains of Lamphun and Lampang province. Yaw 4 (Camp 4) is located 1,000 metres away from Yaw 3

 

Tat Moie Waterfall Between Yow 2 and Yow 3, there is a path on the left side down to Tat Moie Waterfall. If you walk down to Mae Yon Wai Valley for 300 meters, you won’t miss it.

 

Mae Long Waterfall If you get off at Mae Tan Noi railway station and walk for 3 kilometres, you won’t miss this beautiful, year-round cascade. The waterfall is located some 10 kilometres from Khuntan railway station and the atmosphere here is perfect for refreshment and reinvigoration.

 

Contact Address Doi Khun Tan National Park Mu 8, Tha Pla Duk Sub-district, Amphur Mae Tha Lamphun Thailand 51140Tel. 0 5351 9216-7 

 

How to go? By Car There are two routes to the park; • Take the highway no. 11 (Lampang - Chiang Mai), turn right at km.15 - 16 Ban Haeng Chan, Lampang Province and proceed another 28 km.to the park headquarters. • Take the highway no. 11 turn right at km 46 - 47 Ban Mae Ta, Lamphun Province and proceed another 18 km. to the park headquarters.

 

By Train By train, get off at the Khuntan Station and hike 1.3 kilometer up the hill to park headquarters.

 

 

 

Latitude : 18.498563614276822, Longitude : 99.26544999067163

View Larger Map

View On Google Map

Edit Data